SHARE

1) ชื่อจริงที่มีตำนาน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างชื่อของตัวเองให้โลกจดจำ ยิ่งเมื่อมีพี่ชายเป็นถึงนักเตะชื่อดังระดับโลก แต่ทว่าชื่อจริงของอาซาร์ผู้น้องก็ไม่ได้เป็นชื่อธรรมดาทั่วไปซะทีเดียว ชื่อของ “ธอร์กกาน” มาจากชื่อตัวละครของการ์ตูนแนวแฟนตาซีเรื่องหนึ่งในยุค 70 ของประเทศเบลเยี่ยม ตัวละครตัวนี้เกิดที่ดาวอื่น แต่ยานอวกาศดันมาตกลงบนโลก เขาจึงถูกชาวไวกิ้งส์เก็บมาเลี้ยง นี่อาจเป็นเรื่องราวที่อธิบายความสามารถในการเล่นฟุตบอลเหนือมนุษย์ของสองพี่น้องอาซาร์ก็เป็นได้…

2) ครอบครัว พ่อและแม่ของเขา คารีน และ เธียร์รี่ อาซาร์ ต่างก็มีความสามารถและภูมิหลังเกี่ยวกับฟุตบอลทั้งคู่ พ่อของธอร์กกานเคยเล่นฟุตบอลกึ่งอาชีพในตำแหน่งมิดฟิลด์กับทีมฟุตบอลในเมืองบ้านเกิดของเขา ส่วนแม่ก็เคยเล่นเป็นกองหน้าอยู่ในลีกสูงสุดถึงหกปี โดยแม่ของเขาเคยยิงประตูได้ในขณะที่ตั้งท้องเอเดนอยู่ด้วย ก่อนที่ในเวลาต่อมา พ่อ-แม่ของธอร์กกานและเอเดนจะผันตัวมาเป็นครูสอนวิชาพละศึกษา

“10 เรื่องน่ารู้” ของ “ธอร์กกาน อาซาร์” สตาร์เสือเหลืองชาวเบลเยียม

3) แม่แห่งวงการฟุตบอล

คารีน ผู้เป็นแม่คือแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังจุดเริ่มต้นความสำเร็จในวงการฟุตบอลของพี่น้องอาซาร์ เธอพบรักกับเธียร์รี่ที่สนามฟุตบอล เมื่อลูกๆ เติบโต

ขึ้นมาและรักการเล่นฟุตบอลโดยที่เธอไม่ได้บีบบังคับอะไรมากมาย เธอก็พยายามขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ไปดูลูกๆ ลงแข่งขันอยู่เสมอตั้งแต่ยังอยู่ในทีมระดับเยาวชน

4) พี่น้องต่างสี

เอเดน อาซาร์ผู้พี่เคยค้าแข้งให้กับทีมลีลล์ ซึ่งทางต้นสังกัดก็เคยต้องการตัวธอร์กกานมาร่วมทีมเช่นกัน แต่ธอร์กกานตัดสินใจย้ายไปอยู่กับทีมล็องส์ หลังถูกแมวมองมาส่องดูฟอร์มและดึงตัวไปร่วมทัพ เขากล่าวกว่าแม่ของเขาก็เห็นด้วยที่จะให้ทั้งสองอยู่คนละทีมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกนำไปเปรียบเทียบ แต่สุดท้ายพี่น้องคู่นี้ก็ได้มาร่วมทีมเดียวกันที่เชลซีในอังกฤษ

5) สองอาซาร์ในถ้ำเดียวกัน

แน่นอนว่าการที่พี่น้องย้ายมาอยู่ทีมเดียวกัน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกันในทุกฝีก้าว มีหลายคนเชื่อว่าที่เชลซีเซ็นคว้าตัวธอร์กกานมาด้วยก็เพียงเพราะต้องการตัวเอเดนคนเดียวเท่านั้น ซึ่งธอร์กกานก็ออกมายอมรับว่าจริงอยู่ที่การคว้าตัวเป็นแพ็คคู่ทำให้เชลซีได้ตัวเอเดนตามที่ต้องการ แต่ใช่ว่าสโมสรจะเซ็นสัญญานักเตะคนนึงเพราะต้องการตัวพี่น้องของเขาเท่านั้น เพราะพี่น้องของสตาร์ในทีมอย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด หรือจอห์น เทอร์รี่ ก็ไม่ได้ถูกซื้อมาอยู่กับเชลซีด้วย ดังนั้นการที่เชลซีดึงตัวอาซาร์ผู้น้องมาด้วยจึงเป็นเพราะพวกเขามองเห็นศักยภาพของธอร์กกานเช่นกัน มีคำพูดหนึ่งของธอร์กกานที่น่าชมเชยก็คือ “ผมอาจไม่ได้เดินตามรอยเส้นทางเดียวกันกับเอเดน แต่ผมก็กำลังพัฒนาฝีเท้าตัวเองไปทีละขั้น”

6) ต่างเส้นทาง

เส้นทางอาชีพค้าแข้งของเอเดนนั้นเจิดจรัสกับสโมสรเชลซี ในขณะที่ธอร์กกานผู้น้องถูกสโมสรปล่อยตัวให้ทีมซูลเต้ วาเรเกม ยืมตัวกลับไปเล่นในลีกประเทศบ้านเกิด การเล่นฟุตบอลในลีกเบลเยี่ยมอาจเป็นเวทีที่เล็กกว่าในอังกฤษ แต่ธอร์กกานก็โชว์ฝีเท้าได้น่าประทับใจ หลังจบฤดูกาล 2012/13 ธอร์กกานสามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก และในฤดูกาลต่อมาเขากลายเป็นรองดาวซัลโวของทีมด้วยผลงาน 14 ประตู แถมยังถูกเสนอชื่อให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทั้งสโมสรและประเทศเบลเยี่ยมอีกด้วย

7) จาก “สิงห์หนุ่ม” สู่รั้ว “เสือเหลือง”

หลังทำผลงานได้ดีในลีกเบลเยี่ยม ธอร์กกานก็ถูกเรียกตัวกลับอังกฤษและถูกโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค ดึงตัวไปเล่นในบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรก การค้าแข้งกับทีม “สิงห์หนุ่ม” ทำให้ฝีเท้าของธอร์กกานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วธอร์กกานยิงไป 46 ประตูและทำ 44 แอสซิสต์จากการลงสนามเกือบ 200 นัดให้ทีม “สิงห์หนุ่ม” ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมดอร์ทมุนด์ในช่วงหน้าร้อนปี 2019 จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในนักเตะตัวรุกที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกาเวลานี้

“10 เรื่องน่ารู้” ของ “ธอร์กกาน อาซาร์” สตาร์เสือเหลืองชาวเบลเยียม

เมื่อได้ร่วมเล่นกับนักเตะชื่อดังอย่างเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จาดอน ซานโช และ มาร์โค รอยส์ เขาก็ยังพัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่อง จ่ายแอสซิสต์ถึง 12 ครั้งและยิงไปแล้ว 6 ประตูในฤดูกาลนี้ โดยที่ประตูที่เขายิงใส่ทีมเก่าถูกเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคมอีกด้วย

“10 เรื่องน่ารู้” ของ “ธอร์กกาน อาซาร์” สตาร์เสือเหลืองชาวเบลเยียม

8) ทีมชาติ

ธอร์กกานกลายเป็นนักเตะจากตระกูลอาซาร์คนที่สองที่ได้รับใช้ชาติตามรอยเอเดนพี่ชาย กุนซือมาร์ค วิลม็อตส์ จับเขาลงประเดิมสนามให้ทีมชาติเบลเยี่ยมในเกมอุ่นเครื่องกับสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2013 ซึ่งเบลเยี่ยมเฉือนชนะไปได้ 4-3 ประตู แม้ว่าจะไม่ได้ร่วมทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลกับพี่ชายและอดร่วมทีมชุดลุยศึกยูโร 2016 แต่ธอร์กกานก็กลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2018 โดยได้โอกาสลงสนาม 2 นัด รวมแล้วธอร์กกานลงเล่นในนามทีมชาติเบลเยี่ยมไปแล้ว 26 นัด

“10 เรื่องน่ารู้” ของ “ธอร์กกาน อาซาร์” สตาร์เสือเหลืองชาวเบลเยียม

9) สัมพันธ์พี่น้อง

วัยเด็กเอเดนมักจะจับธอร์กกานยืนเป็นผู้รักษาประตูและซ้อมยิงประตูอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งคู่ก็ไม่เคยทะเลาะกันใหญ่โตเลย แม้ทั้งคู่อาจต้องแข่งขันกันในทีมชาติเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงและโอกาสลงเล่น อย่างไรก็ดีเอเดนนั้นรู้สึกแฮปปี้เสมอที่จะได้เห็นความสำเร็จของน้องชาย “ผมไม่คิดว่ามันจะง่ายที่ต้องถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายในทุกๆ วัน เพราะพี่ชายได้สร้างผลงานดีๆ ไว้กับวงการฟุตบอล” เอเดน อาซาร์ สตาร์ทีมเรอัล มาดริดกล่าวถึงน้องชาย “เขาสมควรได้รับการยกย่องมากกว่าผม เพราะผมคิดว่าสำหรับเขาแล้วมันยากกว่า ทุกอย่างมันเข้ามาหาผมเร็วมาก ผมได้ลงแข่งในเกมดีๆ มากมายตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ค้าแข้ง ส่วนเขาต้องต่อสู้กับคำว่า ‘เขาเป็นน้องชายของเอเดน…’ อยู่ตลอด ถึงตอนนี้เขาสามารถแจ้งเกิดในเบลเยี่ยมได้ด้วยตัวเองแล้ว”

10) ดินเนอร์ของครอบครัวอาซาร์

นักเตะจากครอบครัวอาซาร์จะไม่ได้หยุดอยู่แค่เอเดนและธอร์กกานแน่นอน เพราะสองคนนี้เป็นเพียง 2 ใน 4 ของพี่น้องอาซาร์ทั้งหมดเท่านั้น คีเลียน อาซาร์ วัย 23 ปีกลายมาเป็นนักเตะในโครงการพัฒนานักฟุตบอลของสโมสรเชลซีเรียบร้อยแล้วและกำลังถูกยืมตัวไปเล่นในลีกเบลเยี่ยม ส่วนอีตัน อาซาร์ น้องคนสุดท้องวัย 16 ปีก็กำลังเดินเครื่องทำสถิติยิงประตูและแอสซิสต์ ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะในครอบครัวอาซาร์มีกติกาว่า ใครที่ทำผลงานได้น้อยที่สุดหลังจบฤดูกาล ต้องเป็นคนพาทั้งครอบครัวไปเลี้ยงดินเนอร์ไงล่ะ งานนี้ธอร์กกานพูดถึงน้องเล็กว่า “คงต้องเก็บเงินไว้เยอะๆ หน่อยล่ะหากจะเล่นฟุตบอล”

“10 เรื่องน่ารู้” ของ “ธอร์กกาน อาซาร์” สตาร์เสือเหลืองชาวเบลเยียม